The Founder
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี
นารีรัตนราชกัญญา
นารีรัตนราชกัญญา
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี
นารีรัตนราชกัญญา
ภายหลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต ภาควิชานฤมิตศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2551 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านการออกแบบแฟชั่น ณ วิทยาลัยสมาคมการออกแบบเสื้อผ้าปารีส (École de la chambre syndicale de la couture parisienne) ประเทศฝรั่งเศส
องค์ดีไซเนอร์ทรงเริ่มสนพระทัยในด้านการออกแบบแฟชั่นและผ้าไทยมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ โดยทรงดำเนินรอยตามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระอัยยิกา จึงทรงเริ่มต้นการฝึกงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอันทรงอิทธิพลระดับโลกหลากหลายแห่ง อาทิ Christian Dior, Giorgio Armani, Salvatore Ferragamo, Balmain, และ Bulgari การที่ทรงอุปถัมภ์อุตสาหกรรมหัตถศิลป์ผ้าไทย ก่อเกิดเป็นรากฐานสำคัญให้ทรงหลงใหลในศิลปะด้านแฟชั่น และได้ทรงนำเอาผ้าไหมไทยมาใช้ในงานออกแบบที่ทรงรังสรรค์ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
จากการที่ได้ทรงงานกับเหล่าดีไซเนอร์จากโลกตะวันตกมาโดยตลอด พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยที่จะเปิดโลกทัศน์ด้านแฟชั่นฝั่งเอเชียเพิ่มเติม โดยทรงเสด็จไปศึกษาต่อด้าน ศิลปกรรมศาสตร์และการพิมพ์ลายผ้ากิโมโน (Kimono Printing and Applied Art) ที่สถาบัน คินไซ ยูเซน (Kinsai Yusen) เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากพระราชกรณียกิจ และการทรงงานด้านสังคมต่างๆแล้ว พระองค์ยังทรงพระอัจฉริยภาพทางด้านกีฬาและดนตรีหลากหลายแขนงอีกด้วย
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำเนินตามรอยพระบาทสมเด็จพระอัยยิกา ผู้ซึ่งอุทิศพระองค์ให้กับการอุปถัมภ์และอนุรักษ์สืบสานผ้าไหมไทย และการทอผ้าพื้นบ้านไทยให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน และเพื่อรักษาชุมชนหมู่บ้านช่างทอผ้าทั่วประเทศให้มีอนาคตที่มั่นคง ทรงตั้งพระราชหฤทัยแน่วแน่ที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระอัยยิกา ไปพร้อมกับทรงดำเนินตามความฝันของพระองค์ในด้านงานออกแบบและศิลปะ
องค์ดีไซเนอร์ทรงเริ่มสนพระทัยในด้านการออกแบบแฟชั่นและผ้าไทยมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ โดยทรงดำเนินรอยตามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระอัยยิกา จึงทรงเริ่มต้นการฝึกงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอันทรงอิทธิพลระดับโลกหลากหลายแห่ง อาทิ Christian Dior, Giorgio Armani, Salvatore Ferragamo, Balmain, และ Bulgari การที่ทรงอุปถัมภ์อุตสาหกรรมหัตถศิลป์ผ้าไทย ก่อเกิดเป็นรากฐานสำคัญให้ทรงหลงใหลในศิลปะด้านแฟชั่น และได้ทรงนำเอาผ้าไหมไทยมาใช้ในงานออกแบบที่ทรงรังสรรค์ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
จากการที่ได้ทรงงานกับเหล่าดีไซเนอร์จากโลกตะวันตกมาโดยตลอด พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยที่จะเปิดโลกทัศน์ด้านแฟชั่นฝั่งเอเชียเพิ่มเติม โดยทรงเสด็จไปศึกษาต่อด้าน ศิลปกรรมศาสตร์และการพิมพ์ลายผ้ากิโมโน (Kimono Printing and Applied Art) ที่สถาบัน คินไซ ยูเซน (Kinsai Yusen) เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากพระราชกรณียกิจ และการทรงงานด้านสังคมต่างๆแล้ว พระองค์ยังทรงพระอัจฉริยภาพทางด้านกีฬาและดนตรีหลากหลายแขนงอีกด้วย
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำเนินตามรอยพระบาทสมเด็จพระอัยยิกา ผู้ซึ่งอุทิศพระองค์ให้กับการอุปถัมภ์และอนุรักษ์สืบสานผ้าไหมไทย และการทอผ้าพื้นบ้านไทยให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน และเพื่อรักษาชุมชนหมู่บ้านช่างทอผ้าทั่วประเทศให้มีอนาคตที่มั่นคง ทรงตั้งพระราชหฤทัยแน่วแน่ที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระอัยยิกา ไปพร้อมกับทรงดำเนินตามความฝันของพระองค์ในด้านงานออกแบบและศิลปะ
ภายหลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต ภาควิชานฤมิตศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2551 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านการออกแบบแฟชั่น ณ วิทยาลัยสมาคมการออกแบบเสื้อผ้าปารีส (École de la chambre syndicale de la couture parisienne) ประเทศฝรั่งเศสองค์ดีไซเนอร์ทรงเริ่มสนพระทัยในด้านการออกแบบแฟชั่นและผ้าไทยมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ โดยทรงดำเนินรอยตามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระอัยยิกา จึงทรงเริ่มต้นการฝึกงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอันทรงอิทธิพลระดับโลกหลากหลายแห่ง อาทิ Christian Dior, Giorgio Armani, Salvatore Ferragamo, Balmain, และ Bulgari การที่ทรงอุปถัมภ์อุตสาหกรรมหัตถศิลป์ผ้าไทย ก่อเกิดเป็นรากฐานสำคัญให้ทรงหลงใหลในศิลปะด้านแฟชั่น และได้ทรงนำเอาผ้าไหมไทยมาใช้ในงานออกแบบที่ทรงรังสรรค์ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
จากการที่ได้ทรงงานกับเหล่าดีไซเนอร์จากโลกตะวันตกมาโดยตลอด พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยที่จะเปิดโลกทัศน์ด้านแฟชั่นฝั่งเอเชียเพิ่มเติม โดยทรงเสด็จไปศึกษาต่อด้าน ศิลปกรรมศาสตร์และการพิมพ์ลายผ้ากิโมโน (Kimono Printing and Applied Art) ที่สถาบัน คินไซ ยูเซน (Kinsai Yusen) เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากพระราชกรณียกิจ และการทรงงานด้านสังคมต่างๆแล้ว พระองค์ยังทรงพระอัจฉริยภาพทางด้านกีฬาและดนตรีหลากหลายแขนงอีกด้วย
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำเนินตามรอยพระบาทสมเด็จพระอัยยิกา ผู้ซึ่งอุทิศพระองค์ให้กับการอุปถัมภ์และอนุรักษ์สืบสานผ้าไหมไทย และการทอผ้าพื้นบ้านไทยให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน และเพื่อรักษาชุมชนหมู่บ้านช่างทอผ้าทั่วประเทศให้มีอนาคตที่มั่นคง ทรงตั้งพระราชหฤทัยแน่วแน่ที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระอัยยิกา ไปพร้อมกับทรงดำเนินตามความฝันของพระองค์ในด้านงานออกแบบและศิลปะ
ภายหลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต ภาควิชานฤมิตศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2551 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านการออกแบบแฟชั่น ณ วิทยาลัยสมาคมการออกแบบเสื้อผ้าปารีส (École de la chambre syndicale de la couture parisienne) ประเทศฝรั่งเศส
องค์ดีไซเนอร์ทรงเริ่มสนพระทัยในด้านการออกแบบแฟชั่นและผ้าไทยมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ โดยทรงดำเนินรอยตามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระอัยยิกา จึงทรงเริ่มต้นการฝึกงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอันทรงอิทธิพลระดับโลกหลากหลายแห่ง อาทิ Christian Dior, Giorgio Armani, Salvatore Ferragamo, Balmain, และ Bulgari การที่ทรงอุปถัมภ์อุตสาหกรรมหัตถศิลป์ผ้าไทย ก่อเกิดเป็นรากฐานสำคัญให้ทรงหลงใหลในศิลปะด้านแฟชั่น และได้ทรงนำเอาผ้าไหมไทยมาใช้ในงานออกแบบที่ทรงรังสรรค์ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
จากการที่ได้ทรงงานกับเหล่าดีไซเนอร์จากโลกตะวันตกมาโดยตลอด พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยที่จะเปิดโลกทัศน์ด้านแฟชั่นฝั่งเอเชียเพิ่มเติม โดยทรงเสด็จไปศึกษาต่อด้าน ศิลปกรรมศาสตร์และการพิมพ์ลายผ้ากิโมโน (Kimono Printing and Applied Art) ที่สถาบัน คินไซ ยูเซน (Kinsai Yusen) เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากพระราชกรณียกิจ และการทรงงานด้านสังคมต่างๆแล้ว พระองค์ยังทรงพระอัจฉริยภาพทางด้านกีฬาและดนตรีหลากหลายแขนงอีกด้วย
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำเนินตามรอยพระบาทสมเด็จพระอัยยิกา ผู้ซึ่งอุทิศพระองค์ให้กับการอุปถัมภ์และอนุรักษ์สืบสานผ้าไหมไทย และการทอผ้าพื้นบ้านไทยให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน และเพื่อรักษาชุมชนหมู่บ้านช่างทอผ้าทั่วประเทศให้มีอนาคตที่มั่นคง ทรงตั้งพระราชหฤทัยแน่วแน่ที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระอัยยิกา ไปพร้อมกับทรงดำเนินตามความฝันของพระองค์ในด้านงานออกแบบและศิลปะ
องค์ดีไซเนอร์ทรงเริ่มสนพระทัยในด้านการออกแบบแฟชั่นและผ้าไทยมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ โดยทรงดำเนินรอยตามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระอัยยิกา จึงทรงเริ่มต้นการฝึกงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอันทรงอิทธิพลระดับโลกหลากหลายแห่ง อาทิ Christian Dior, Giorgio Armani, Salvatore Ferragamo, Balmain, และ Bulgari การที่ทรงอุปถัมภ์อุตสาหกรรมหัตถศิลป์ผ้าไทย ก่อเกิดเป็นรากฐานสำคัญให้ทรงหลงใหลในศิลปะด้านแฟชั่น และได้ทรงนำเอาผ้าไหมไทยมาใช้ในงานออกแบบที่ทรงรังสรรค์ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
จากการที่ได้ทรงงานกับเหล่าดีไซเนอร์จากโลกตะวันตกมาโดยตลอด พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยที่จะเปิดโลกทัศน์ด้านแฟชั่นฝั่งเอเชียเพิ่มเติม โดยทรงเสด็จไปศึกษาต่อด้าน ศิลปกรรมศาสตร์และการพิมพ์ลายผ้ากิโมโน (Kimono Printing and Applied Art) ที่สถาบัน คินไซ ยูเซน (Kinsai Yusen) เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากพระราชกรณียกิจ และการทรงงานด้านสังคมต่างๆแล้ว พระองค์ยังทรงพระอัจฉริยภาพทางด้านกีฬาและดนตรีหลากหลายแขนงอีกด้วย
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำเนินตามรอยพระบาทสมเด็จพระอัยยิกา ผู้ซึ่งอุทิศพระองค์ให้กับการอุปถัมภ์และอนุรักษ์สืบสานผ้าไหมไทย และการทอผ้าพื้นบ้านไทยให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน และเพื่อรักษาชุมชนหมู่บ้านช่างทอผ้าทั่วประเทศให้มีอนาคตที่มั่นคง ทรงตั้งพระราชหฤทัยแน่วแน่ที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระอัยยิกา ไปพร้อมกับทรงดำเนินตามความฝันของพระองค์ในด้านงานออกแบบและศิลปะ
แบรนด์แฟชั่นชั้นสูง SIRIVANNAVARI โดดเด่นด้วยงานออกแบบเปี่ยมความคิดสร้างสรรค์และงานฝีมืออันประณีต ที่รวมเอาความอ่อนหวานของสตรีและความแข็งแกร่งของสุภาพบุรุษมาอยู่ในทรงเสื้อผ้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ลายพิมพ์กราฟิคโดดเด่น ช่างฝีมือที่มีเทคนิคชั้นสูง รวมความงดงามของหลากหลายวัฒนธรรม
หัวใจหลักของแบรนด์ SIRIVANNAVARI คือความโก้หรู ที่เสริมให้สุภาพสตรีดูสง่างามมีพลัง โดยมี SIRIVANNAVARI Atelier and Academy เป็นสถาบันซึ่งรับบทบาทสำคัญมาก ในการรังสรรค์ผลงานและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ จากการปักผ้าแบบไทยดั้งเดิม และการปักผ้าแบบตะวันตกตลอดมา
หัวใจหลักของแบรนด์ SIRIVANNAVARI คือความโก้หรู ที่เสริมให้สุภาพสตรีดูสง่างามมีพลัง โดยมี SIRIVANNAVARI Atelier and Academy เป็นสถาบันซึ่งรับบทบาทสำคัญมาก ในการรังสรรค์ผลงานและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ จากการปักผ้าแบบไทยดั้งเดิม และการปักผ้าแบบตะวันตกตลอดมา
แบรนด์แฟชั่นชั้นสูง SIRIVANNAVARI โดดเด่นด้วยงานออกแบบเปี่ยมความคิดสร้างสรรค์และงานฝีมืออันประณีต ที่รวมเอาความอ่อนหวานของสตรีและความแข็งแกร่งของสุภาพบุรุษมาอยู่ในทรงเสื้อผ้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ลายพิมพ์กราฟิคโดดเด่น ช่างฝีมือที่มีเทคนิคชั้นสูง รวมความงดงามของหลากหลายวัฒนธรรม
หัวใจหลักของแบรนด์ SIRIVANNAVARI คือความโก้หรู ที่เสริมให้สุภาพสตรีดูสง่างามมีพลัง โดยมี SIRIVANNAVARI Atelier and Academy เป็นสถาบันซึ่งรับบทบาทสำคัญมาก ในการรังสรรค์ผลงานและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ จากการปักผ้าแบบไทยดั้งเดิม และการปักผ้าแบบตะวันตกตลอดมา
หัวใจหลักของแบรนด์ SIRIVANNAVARI คือความโก้หรู ที่เสริมให้สุภาพสตรีดูสง่างามมีพลัง โดยมี SIRIVANNAVARI Atelier and Academy เป็นสถาบันซึ่งรับบทบาทสำคัญมาก ในการรังสรรค์ผลงานและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ จากการปักผ้าแบบไทยดั้งเดิม และการปักผ้าแบบตะวันตกตลอดมา
IRIS JACKET
ผลงานเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ “แจ็กเกตไอริส” (IRIS Jacket) ความชัดเจน จุดบรรจบของความแข็งแกร่งผ่านเหลี่ยมมุม และความงามสง่าทางทรวดทรงของเสื้อนอกเครื่องแบบนายทหารนโปเลียน กับมิติรูปทรงนาฬิกาทรายอันอ่อนช้อย เผยเสน่ห์เย้ายวนทรวดทรงแห่งอิสตรี สะโอดสะอง IRIS Jacket วิวัฒน์ไปตามแนวทางงานออกแบบแต่ละฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง, วัสดุ ตลอดจนรายละเอียดทางการตกแต่ง อย่างงานปัก งานพิมพ์ หรืองานแต่งระบาย
ผลงานเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ “แจ็กเกตไอริส” (IRIS Jacket) ความชัดเจน จุดบรรจบของความแข็งแกร่งผ่านเหลี่ยมมุม และความงามสง่าทางทรวดทรงของเสื้อนอกเครื่องแบบนายทหารนโปเลียน กับมิติรูปทรงนาฬิกาทรายอันอ่อนช้อย เผยเสน่ห์เย้ายวนทรวดทรงแห่งอิสตรี สะโอดสะอง IRIS Jacket วิวัฒน์ไปตามแนวทางงานออกแบบแต่ละฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง, วัสดุ ตลอดจนรายละเอียดทางการตกแต่ง อย่างงานปัก งานพิมพ์ หรืองานแต่งระบาย
ลำดับเหตุการณ์สำคัญ
